นักศึกษามหาวิทยาลัยขอนแก่น ชั้นปีที่ 4
ต้องทำงานอะไรบ้าง
ในการฝึกงานตลอดระยะเวลา 4 เดือนกับทางบริษัท เจมัม ไทยแลนด์ ในตำแหน่ง General Affairs การฝึกงานครั้งนี้เป็นโอกาสที่ดีที่ทำให้ได้พัฒนาทักษะทางภาษาและการทำงานในสภาพแวดล้อมจริง รวมถึงได้เรียนรู้การทำงานเป็นทีมและการปรับตัวให้เข้ากับวัฒนธรรมองค์กรญี่ปุ่น งานที่ได้รับมอบหมายมีความหลากหลายและเป็นความรู้ใหม่ ๆ ที่สามารถนำไปปรับใช้ในการทำงานในอนาคต ตั้งแต่การเตรียมเอกสารไปจนถึงการแปลเอกสารการอบรม และงานที่ได้รับมอบหมายให้ทำมีดังนี้
- แก้ไขเอกสารนำเสนอ Production meister
- เข้าร่วมประชุมเพื่อรายงานความคืบหน้าประจำสัปดาห์
- แปลเอกสารอบรม ไทย – ญี่ปุ่น
- จัดทำสไลด์ Presentation เตรียมเอกสารสำหรับการอบรมสัมมนา
- สรุปผลแบบสอบถาม ไทย – ญี่ปุ่น
- จัดทำการ์ด Workshop ที่ใช้ในการอบรม
- จัดเตรียมเอกสารบัญชีเพื่อที่นำไปส่งให้กับลูกค้าที่ไปรษณีย์
- ฝึกเขียนอีเมลรายงานการทำงานให้หัวหน้าชาวญี่ปุ่น
- จัดทำเกียรติบัตรสำหรับผู้เข้าอบรม ปริ้นท์เอกสารและแผ่นพับ ฯลฯ ตามที่ได้รับมอบหมาย
- จัดทำใบเสนอราคา ใบกำกับภาษี เอกสารบัญชีต่าง ๆ ฯลฯ
- ไปสังเกตการณ์การอบรมจริงที่บริษัทลูกค้า
- ตรวจเช็คข้อสอบระดับ Basic และระดับ Intermediate ภาษาไทย – ภาษาญี่ปุ่น
- จัดทำข้อสอบก่อนเรียนและหลังเรียน
สิ่งที่ได้เรียนรู้และรู้สึกสนุก
บริษัท เจมัม ไทยแลนด์ เป็นบริษัทสัญชาติญี่ปุ่น จึงทำให้ได้ใช้ภาษาญี่ปุ่นในการทำงานเป็นประจำและใช้ในการสื่อสารกับนายชาวญี่ปุ่น ในการฝึกงานทำให้ได้ใช้ภาษาญี่ปุ่นในสถานการณ์จริงมากขึ้น โดยเฉพาะการใช้ศัพท์ทางธุรกิจที่ไม่ค่อยได้เรียนรู้ในห้องเรียน ซึ่งทำให้รู้สึกตื่นเต้นและสนุกกับการเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ และได้เห็นว่าการทำงานร่วมกับผู้อื่นต้องอาศัยการสื่อสารที่ดี และการปรับตัวให้เข้ากับสไตล์การทำงานของแต่ละคน นอกจากนี้ พี่ ๆ ในที่ทำงานทุกคนก็คอยให้ความช่วยเหลืออยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการแปล การใช้ภาษาทางธุรกิจ หรือคำแนะนำเกี่ยวกับการทำงาน ทำให้รู้สึกสนุก สบายใจและสามารถเรียนรู้ได้อย่างเต็มที่ในทุก ๆ วัน
สิ่งที่รู้สึกยาก
สิ่งที่รู้สึกว่ายาก คือการแปลภาษาญี่ปุ่นที่เป็นทางการ ศัพท์ทางธุรกิจและสำนวนที่ใช้ในงานบางครั้งมีความซับซ้อน ทำให้ต้องใช้เวลาทำความเข้าใจและเลือกคำที่เหมาะสม อีกทั้งการสื่อสารกับพนักงานญี่ปุ่น แม้ว่าจะพอเข้าใจภาษาญี่ปุ่นอยู่บ้าง แต่การสนทนาในบริบทการทำงานที่มีความจริงจังและเป็นทางการมากกว่าการพูดคุยทั่วไปทำให้ต้องใช้ความระมัดระวังในการเลือกใช้คำและการแสดงออก และยังมีเรื่องการปรับตัวเข้ากับวัฒนธรรมการทำงาน วัฒนธรรมองค์กรของญี่ปุ่นมีรายละเอียดที่ต้องใส่ใจ เช่น การให้ความสำคัญกับลำดับขั้นและมารยาททางธุรกิจ ซึ่งต้องคอยสังเกตและเรียนรู้ตลอดเวลา แต่โดยรวมแล้ว การฝึกงานครั้งนี้ทำให้ได้เรียนรู้ทักษะที่จำเป็นต่อการทำงานจริง และทำให้เข้าใจว่าการทำงานในองค์กรต้องอาศัยทั้งความสามารถทางวิชาการและทักษะด้านมนุษย์สัมพันธ์ไปพร้อม ๆ กัน