บทความส่วนหนึ่งจากข่าวประชาสัมพันธ์วันที่ 19/03/2021
◆ ความเป็นมาและภูมิหลัง
JMA Management Center Inc. ได้ร่วมทำการทดลองพฤติกรรม และ fMRI (functional magnetic resonance imaging หรือ การสร้างภาพด้วยเรโซแนนซ์แม่เหล็ก) กับห้องปฏิบัติการ Sakai ของบัณฑิตวิทยาลัยศิลปศาสตร์และวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยโตเกียว และ NTT Data Institute of Management Consulting, Inc. โดยได้ทราบอย่างชัดเจนเป็นครั้งแรกว่าระยะเวลาของการจัดเก็บความจำ ความสามารถในการทวนความจำ และการทำงานของสมองจะแตกต่างไปตามสื่อที่ใช้ในการจดบันทึก (สมุดบันทึก หรือ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ อย่าง สมาร์ทโฟน) เช่น ตารางเวลา
◆ ผลการทดลองโดยสังเขป
การทดลองในครั้งนี้ได้แบ่งกลุ่มตัวอย่างออกเป็น 3 กลุ่ม คือ กลุ่มที่ใช้สมุดบันทึก กลุ่มที่ใช้แท็บเล็ต และกลุ่มที่ใช้สมาร์ทโฟน จากนั้นให้แต่ละกลุ่มทำการบันทึกตารางเวลาต่าง ๆ โดยใช้สื่อที่กำหนด โดยแท็บเล็ตและสมุดบันทึกเมื่อกางออกจะมีขนาดพอกัน อีกทั้งยังใช้ปากกาเขียนด้วยมือเหมือนกัน หลังจากนั้นจึงทำการถามทดสอบทวนความจำเกี่ยวกับรายละเอียดตารางที่บันทึก โดยเครื่องมือ MRI ผลลัพธ์ที่ได้คือ ในช่วงระยะเวลาสั้น ๆ กลุ่มที่ใช้สมุดบันทึกจะจดจำได้ยาวนานกว่ากลุ่มอื่น ๆ แต่ถึงอย่างนั้น อัตราการตอบถูก (ค่าเฉลี่ยจากทุกคำถาม) ของทั้งสามกลุ่ม ในการทดสอบความจำเกี่ยวกับเนื้อหาที่จดบันทึกนั้นไม่ได้มีความแตกต่างที่เห็นได้ชัด อย่างไรก็ตาม ก็ได้ทราบว่ากลุ่มที่ใช้สมุดบันทึกนั้นสามารถจดจำได้ยาวนานกว่าจากการจำในระยะเวลาสั้น ๆ อย่างเป็นนัยยะสำคัญ นอกจากนี้ผลลัพธ์จากการถามคำถามยังพบว่า กลุ่มที่ใช้สมุดบันทึกมีผลลัพธ์ที่สูงกว่ากลุมที่ใช้แท็บเล็ต
ขณะที่ทำการตรวจวัดการทำงานของสมองขณะทบทวนความทรงจำเหล่านี้ด้วยเครื่อง fMRI พบว่านอกเหนือจาก สมองกลีบหน้า (frontal lobe) ที่ทำหน้าที่เกี่ยวข้องกับการประมวลผลด้านภาษา และ ฮิปโปแคมปัส (hippocampus) ที่ทำหน้าที่เกี่ยวกับการจัดการความทรงจำแล้ว สมองส่วนที่ดูแลด้านการมองเห็นเองก็มีการทำงานที่สูงขึ้น จากเรื่องนี้จึงสามารถสรุปได้ว่ากระบวนการทำงานของสมองทางด้านภาษา การทวนความจำ และภาพการมองเห็นนั้นมีส่วนเกี่ยวข้องกัน นอกจากนี้ยังสามารถยืนยันได้ว่ากลุ่มที่ใช้สมุดบันทึกมีการทำงานในสมองส่วนต่าง ๆ เหล่านี้สูงกว่ากลุ่มอื่น ๆ
◆ ความสำคัญต่อสังคมและกำหนดการหลังจากนี้
เมื่อเราใช้หนังสือเรียนแบบเล่มหรือสมุดโน้ตในการเรียน เราจะเกิดการเรียนรู้เชิงเชื่อมโยง (associative learning) ขึ้น โดยเราจะไม่ได้จดจำแค่เพียงข้อมูลถ้อยคำที่เราจดไว้ แต่จะรวมถึงตำแหน่งที่เราจดไว้บนกระดาษ และข้อมูลภาพที่เกี่ยวข้องกับตำแหน่งที่เขียนไปด้วยในเวลาเดียวกัน ในทางตรงกันข้าม ใน อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อย่าง สมาร์ทโฟน แท็บเล็ต และคอมพิวเตอร์ ความสัมพันธ์ระหว่างหน้าจอกับข้อมูลตัวอักษรนั้นมีตำแหน่งที่ไม่แน่นอน และรายละเอียดที่จะช่วยให้เราจดจำในแต่ละหน้าก็มีไม่มาก การจะจดจำข้อมูลที่สะเปะสะปะด้วยวิธีการเชิงเชื่อมโยงกับภาพจำจึงเป็นไปได้ยาก จึงอาจพูดได้ว่า เมื่ออิงจากความสามารถในการช่วยจดจำที่สูงอย่างการมีรายละเอียดที่ช่วยในการจดจำเยอะ และข้อดีที่เมื่อใช้แล้วช่วยให้จดจำข้อมูลได้ยาวนานขึ้น สื่อที่อยู่ในรูปแบบกระดาษจึงมีประโยชน์ต่อทั้งการพัฒนาแนวคิดใหม่หรือความคิดสร้างสรรค์ต่าง ๆ
เมื่ออิงจากผลการทดสอบครั้งนี้ เราสามารถคาดหวังได้ว่า หากในชีวิตประจำวัน เราแบ่งใช้ผลิตภัณฑ์จากกระดาษและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ได้อย่างเหมาะสมกับจุดประสงค์ ก็จะได้ผลลัพธ์ที่ดีมากขึ้นไปอีก โดยเฉพาะในด้านการเรียนการสอนและธุรกิจที่มีการเดินหน้าเปลี่ยนสื่อต่าง ๆ ให้เป็นรูปแบบดิจิตัลเพื่อลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพ แต่ในการพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ต่าง ๆ โดยอิงจากศาสตร์ของวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับสมองแล้ว เราสามารถสรุปได้ว่า การใช้สมุดจดหรือสมุดบันทึกจะช่วยให้เห็นผลลัพธ์ที่ต้องการได้มากยิ่งขึ้น
หลังจากนี้ ทางห้องปฏิบัติการ Sakai ของบัณฑิตวิทยาลัยศิลปศาสตร์และวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยโตเกียวจะยังคงมุ่งหน้าไขความลับของกระบวนการทำงานของสมองมนุษย์ในด้านของความจำและการใช้ภาษา ในส่วนของ JMA Management Center Inc. และ NTT Data Institute of Management Consulting, Inc. ก็จะทุ่มเทเพื่อสร้างสังคมที่ผู้คนสามารถพัฒนาศักยภาพได้มากที่สุด ผ่านการนำเสนอบริการด้านการเรียนการสอนเชิงประจักษ์ที่มีพื้นฐานมาจากความรู้ทางวิทยาศาสตร์ต่อไป